โมร็อกโก ชนะดวลจุดโทษ เขี่ย สเปน ตกรอบ ฟุตบอลโลก 2022

โมร็อกโก ชนะดวลจุดโทษ

 

โมร็อกโก ชนะดวลจุดโทษ เขี่ย สเปน ตกรอบ ฟุตบอลโลก 2022

โมร็อกโก ชนะดวลจุดโทษ เข้ารอบ 8 ทีมได้เป็นหนแรก หลังดวลจุดโทษชนะ เขี่ย สเปน ตกรอบ 16 ทีม ฟุตบอลโลก 2022 ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย

ฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีม คู่ที่ 7 ซึ่งเป็นคู่แรกของวันนี้ เวลา 22.00 น. ถ่ายทอดสดทาง ทรูโฟร์ยู 24 เป็นเกมที่สนามเอดูเคชั่น ซิตี้ สเตเดียม เมืองอัล รายยาน ประเทศกาตาร์ ทีมชาติโมร็อกโก อันดับ 22 ของโลก แชมป์กลุ่มเอฟ พบกับ ทีมชาติสเปน อันดับ 7 ของโลก รองแชมป์กลุ่มอี

นาทีที่ 25 โมร็อกโก เกือบเสียประตูจากความกล้าเล่นของ ยาสซีน บูนู ที่จ่ายบอลไม่ตรง นาเยฟ อาเกิร์ด ก่อนที่ สเปน จะเปิดสวนกลับเข้ามาในเขตโทษ กาบี ยิงจังหวะแรกติดเซฟ บูนู แล้วบอลชนคาน ก่อนที่ เฟร์ราน ตอร์เรส จะซ้ำดาบสองไปติดบล็อก โซเฟียน อัมราบัต แต่ผู้ตัดสินเป่าให้เป็นจังหวะล้ำหน้าของ เฟร์ราน ตอร์เรส ไปก่อน

นาทีที่ 26 สเปน เริ่มเห็นช่องเจาะแนวรับ โมร็อกโก ก่อนอาศัยการวางบอลยาวจากกลางสนาม ทิ้งไปให้ มาร์โก อเซนซิโอ หลุดกับดักล้ำหน้า แต่จังหวะยิงนั้นมุมแคบเกินไป ทำให้ตัวรุกจาก เรอัล มาดริด ซัดไปเข้าข้างตาข่าย

นาทีที่ 33 โมร็อกโก มีโอกาสลุ้นได้ประตูบ้างจากลูกยิงไกลเต้มข้อของ นูส์แซร์ มัซราอูย บอลพุ่งทะลุช่องแนวรับ สเปน มาแล้ว แต่ อูไน ซิมอน ยังล้มตัวปัดก่อนตามตะครุบเอาไว้ได้ จบครึ่งแรกยังเสมอ 0-0

ครึ่งหลัง นาทีที่ 55 สเปน ได้ฟรีคิกเยื้องมาทางซ้ายของกรอบเขตโทษ ก่อนเขี่ยเปลี่ยนจุดสั้นๆ เพื่อเปิดมุมให้ ดานี โอลโม ได้กดเน้นๆ แต่บอลยังไม่ผ่านมือ ยาสซีน บูนู

จากนั้น สเปน ก็มีโอกาสลุ้นทำประตูมากกว่า ขณะที่ โมร็อกโก อาศัยจังหวะฉาบฉวยเล่นงาน แต่ก็ยังไม่มีใครทำประตูกันได้ จบ 90 นาทียังเสมอ 0-0 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที

ช่วงต่อเวลาพิเศษ นาทีที่ 104 โมร็อกโก เกือบช็อกแฟนบอลสเปน หวิดได้ประตูขึ้นนำก่อน เมื่อ วาลิด เชดดิรา กองหน้าตัวสำรองพาบอลแหวกแนวรับ “กระทิงดุ” ก่อนหลุดเข้าไปยิงล่อเป้า แต่ยังติดเซฟ อูไน ซิมอน แบบหวุดหวิด

นาทีสุดท้าย สเปน เกือบได้ประตูชัย แต่ลูกกึ่งยิงกึ่งผ่านของตัวสำรอง ปาโบล ซาราเบีย ไปชนเสาผ่านหน้าประตู จบ 120 นาที เสมอ 0-0 ต้องดวลจุดโทษตัดสินเป็นคู่ที่ 2 ในฟุตบอลโลก 2022 ต่อจากเกมที่ โครเอเชีย ชนะ ญี่ปุ่น 3-1 สกอร์รวม 4-2

ปรากฏว่า โมร็อกโก ยิงแม่นกว่า สังหารเข้า 3 คน จาก อับเดลฮามิด ซาบิรี, ฮาคิม ซิเยค และ อัชราฟ ฮาคิมี โดยมีแค่ บาเดอร์ เบโนน คนเดียวที่พลาด

ส่วน สเปน ยิงพลาดหมด 3 คน ทั้ง ปาโบล ซาราเบีย ที่ซัดคนแรกไปชนเสา, การ์ลอส โซเลร์ และ เซร์คิโอ บุสเกตส์ ที่ยิงติดเซฟ ยาสซีน บูนู

ทำให้ โมร็อกโก ดวลจุดโทษชนะ สเปน 3-0 สร้างประวัติศาสตร์เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายได้เป็นครั้งแรก หลังจากเคยเข้ารอบ 16 ทีมเพียงหนเดียวในปี 1986 ไปรอพบผู้ชนะระหว่าง ทีมชาติโปรตุเกส หรือ ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ ในวันที่ 10 ธันวาคมนี้

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้ง 2 ทีม

โมร็อกโก (ระบบ 4-3-3) : ยาสซีน บูนู (ผู้รักษาประตู) – อัชราฟ ฮาคิมี, นาเยฟ อาเกิร์ด, โรแม็ง ซาอิสส์ (กัปตันทีม), นูส์แซร์ มัซราอูย – อัซเซดีน อูนาฮี, โซเฟียน อัมราบัต, เซลิม อมัลลาห์ – ฮาคิม ซิเยค, ยุสเซฟ อ็อง-เนซีรี, โซฟิยาน บูฟาล

สเปน (ระบบ 4-3-3) : อูไน ซิมอน (ผู้รักษาประตู) – มาร์กอส ยอเรนเต, โรดรี, เอเมอริก ลาปอร์กต์, จอร์ดี อัลบา – กาบี, เซร์คิโอ บุสเกตส์ (กัปตันทีม), เปดรี – เฟร์ราน ตอร์เรส, มาร์โก อเซนซิโอ, ดานี โอลโม